ฤดูฝนเป็นฤดูที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นและชุ่มชื้น หากไม่ระมัดระวังในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสล้มป่วยได้ง่ายมากกว่าคนหนุ่มสาวทั่วไป ดังนั้นบทความนี้ อายุวัฒน์ เนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะมาแนะนำเคล็ดลับในการดูแลผู้สูงอายุในช่วงฤดูฝน ครอบครัวและคนที่มีหน้าที่รับดูแลผู้สูงอายุควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี ปลอดภัยจากโรคอันตรายที่มากับฤดูฝน มาเรียนรู้และทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย
- ดูแลผู้สูงอายุให้มีร่างกายอบอุ่น
ในช่วงฤดูฝน อากาศจะมีความหนาวและชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ครอบครัวและคนที่มีหน้าที่รับดูแลผู้สูงอายุควรหมั่นตรวจเช็กให้ผู้สูงอายุสวมใส่แต่เสื้อผ้าที่แห้งสนิท หากมีอากาศหนาวเย็นก็ให้สวมเสื้อกันหนาว ถุงเท้าและห่มผ้าให้เรียบร้อย กรณีที่ผู้สูงอายุได้รับละอองฝนให้รีบเช็กศีรษะให้แห้ง พยายามดูแลผู้สูงอายุให้มีร่างกายอบอุ่นตลอดเวลา เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่มักจะมาพร้อมกับฤดูฝน เช่น โรคปอดบวม โรคไข้หวัด และโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
- ดูแลผู้สูงอายุระมัดระวังการลื่นล้ม
การหกล้มอาจจะเป็นอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยสำหรับเด็กและคนหนุ่มสาว แต่ในกรณีของผู้สูงอายุ การหกล้มอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้สูงอายุได้เลย ยิ่งในช่วงฤดูฝนที่มักทำให้พื้นเปียกอยู่บ่อย ๆ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือคนในครอบครัวควรใส่ใจดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการลื่นล้ม แนะนำให้หมั่นเช็ดทำความสะอาดพื้นในบริเวณบ้านพักผู้สูงอายุ รวมถึงทางเดินต่าง ๆ ให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้สูงอายุตากฝนและเดินลุยน้ำ
ในช่วงฤดูฝน อากาศมักจะมีความหนาวเย็น รวมถึงหากฝนตกนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดน้ำขังหรือน้ำท่วมในบางพื้นที่ได้ สำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำขังหรือน้ำท่วมบ่อย ๆ ครอบครัวและผู้ดูแลผู้สูงอายุควรพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้สูงอายุเดินลุยน้ำและโดนละอองฝน เนื่องจากอากาศเปลี่ยนหรือการตากฝนเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผู้สูงอายุที่มีระดับผู้คุ้มกันร่างกายต่ำเกิดอาการป่วยได้แล้ว รวมถึงแหล่งน้ำขังตามจุดต่าง ๆ ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคร้ายด้วย ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
- ระมัดระวังยุงตัวร้ายที่มากับฝน
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา บ้านพักผู้สูงอายุ รวมถึงทุกครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในบ้าน ควรหมั่นทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุให้มีความสะอาดและปราศจากแหล่งน้ำขังหรือแอ่งน้ำที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายให้เรียบร้อย โดยการใช้ทรายอะเบทโรยให้จุดที่มีน้ำขัง เนื่องจากยุงเป็นหนึ่งในพาหะนำโรคที่มักมาในช่วงฤดูฝน พยายามป้องกันและดูแลผู้สูงอายุไม่ให้ถูกยุงกัด เนื่องจากผู้สูงอายุมีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงในการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ครอบครัวและคนที่มีหน้าที่รับดูแลผู้สูงอายุจึงควรใส่ใจเป็นพิเศษ
- หากเกิดอาการคันอย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุเกา
สภาพอากาศหนาวเย็นและชื้นในฤดูฝนอาจทำให้ผิวของผู้สูงอายุเกิดอาการคันได้ง่าย ครอบครัวและคนที่มีหน้าที่รับดูแลผู้สูงอายุควรพยายามป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเกา เพราะผิวที่แห้งของผู้สูงอายุ หากเกาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ เพราะเหตุนี้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา บ้านพักผู้สูงอายุ รวมถึงทุกครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในบ้านจึงควรหายาทาสำหรับทาเพื่อยับยั้งการเกิดผื่นคัน รวมถึงหมั่นดูแลผู้สูงอายุให้อาบน้ำหรือเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ
- หมั่นดูแลผู้สูงอายุให้ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา รวมถึงเจ้าหน้าที่รับดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพมักจะมีการจดลิสต์บันทึกว่าผู้สูงอายุมีการดื่มน้ำและรับประทานเพียงพอต่อร่างกายหรือไม่ โดยเฉพาะการดื่มน้ำสะอาดถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะการดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในระบบทางเดินหายใจของผู้สูงอายุมีความชุ่มชื้น รวมถึงกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมต่อการรับมือกับสภาพอากาศในฤดูฝนด้วย
นี่ก็คือเคล็ดลับการดูแลผู้สูงอายุในช่วงฤดูฝน หากครอบครัวใดที่ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการรับดูแลผู้สูงอายุ สามารถติดต่อขอใช้บริการ อายุวัฒน์ เนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ได้ ที่นี่เรามีทีมแพทย์ พยาบาล พร้อมด้วยนักกายภาพบำบัดพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุและคนที่คุณรักตลอด 24 ชั่วโมง รับรองคนในครอบครัวของท่านจะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม ปลอดภัยและใส่ใจมากกว่าการใช้บริการบ้านพักคนชราและบ้านพักผู้สูงอายุอื่น ๆ อย่างแน่นอน
แหล่งที่มา
https://www.dop.go.th/th/gallery/1/4414
ข้อมูลโดย